Lotus Elise สปอร์ตแบบดิบๆ ขับเซียนเหมือนเรียนมา

     Lotus Elise นับเป็นรถสปอร์ตที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่ง ในตลาดเมืองไทยสามารถหาซื้อได้ในราคา 2.3-3.2 ล้านบาทขึ้นอยู่กับสภาพ ปี ของแต่งที่ใส่เข้าไป มันน่าสนใจตรงไหน? เราลองมาดูข้อมูลทางเทคนิคกัน

     เจ้า Lotus Elise โฉม s2  ที่เห็นอยู่ในภาพมีเครื่องยนต์เป็นแบบ 4 สูบแถวเรียง 1.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 134 แรงม้า ที่ 6,800 รอบต่อนาที แรงบิด 160 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที เมื่อดูถึงตรงนี้แล้วจะรู้สึกว่า เอ๊ะแค่นี้มันจะต่างกับรถบ้านทั่วไปยังไง ต่างแน่นอนครับเพราะ Lotus Elise มีน้ำหนักตัวเปล่าเพียงแค่ 875 กิโลกรัม ทำให้คำนวณน้ำหนักต่อแรงม้าออกมาได้มากถึง 153 แรงม้าต่อตัน และด้วยน้ำหนักที่เบานี่เองทำให้มันสามารถทำความเร็วจาก 0-100 ได้ในเวลาเพียง 4-5 วินาทีโดยประมาณ และยังทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 234 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

     ส่วนช่วงล่างเป็นแบบอิสระดับเบิลวิชโบนพร้อมแอนติโรลบาร์ โช้คอัพแก็สจาก Bilstein ทั้ง 4 ต้น และคอยล์สปริงจากสำนัก Eibach ย่อมการันตีถึงความหนึบในการเกาะถนน ฟิลลิ่งในการขับนั้นจะออกกระด้างเพราะเน้นการทรงตัวมากกว่าความนุ่มนวล การส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด อาจลำบากนิดนึง เพราะคลัชหนัก และพวงมาลัยก็ยังหนักเพราะไม่มีพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรง อาจจะเป็นอุปสรรคในการเข้าจอดในห้างสรรพสินค้า หรือในเวลาใช้ความเร็วต่ำ แต่จะนิ่งมากในเวลาขับความเร็วสูงๆ ในการกดคันเร่งแต่ละทีนั้นให้อาการแบบดึงหลังติดเบาะ แต่การเก็บเสียงในห้องโดยสารทำได้ไม่ดีนักเพราะรู้สึกถึงเสียงปึงปังก็อกๆแก็กๆตลอด ยิ่งถ้าขับถนนขรุขระยิ่งรู้สึกชัดเจนทุกเม็ด ก้อนหินกี่ก้อน หลุมมีกี่หลุม มาให้รับรู้สะเทือนไปถึงตับไตไส้พุง ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารที่แสนแคบนั้นนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากที่วางแก้วกากๆ อันหนึ่ง

     พออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจร้องยี้ แต่ด้วยสมรรถนะและความมันส์ในการขับสำหรับผู้ที่มีจิตวิญญาณนักซิ่งแล้ว Lotus Elise ถือเป็นงานเรซซิ่งชั้นดีเลยทีเดียว ซึ่งหากจะเลือกซื้อให้เลือกซื้อ  Lotus Elise รุ่นที่ใหม่กว่าปี 2003 ที่ใช้เครื่องยนต์ของ Toyota จะช่วยเซฟเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และระวังอย่าให้เกิดความเสียหายกับแชสซีส์หรือตัวถัง เพราะ อะไหล่แพงและหายาก